บทความการตอกเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile ไมโครไพล์ Micropile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ หรือเข็มไอ I-Micropile เสาเข็มเพื่อการต่อเติม เสริมฐานราก และงานสร้างใหม่ ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 ภายใต้การรับรองระบบงานของ UKAS และ NAC และมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม (The Provision of Pile Driving Service)

การเจาะสำรวจดิน (SOIL BORING TEST)

การเจาะสำรวจดิน (SOIL BORING TEST)

สภาพชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอาจมีความแปรปรวนของชั้นดิน ทำให้สภาพพื้นที่แตกต่างไปจากพื้นที่ทั่วไป เช่น มีชั้นทรายหลวมผิดปกติ มีชั้นดินเหนียวอ่อน หรือระดับความลึกของชั้นดินที่แข็งแรงมีความผันแปรสูง เป็นต้น จากสภาพของชั้นดินดังกล่าว อาจทำให้ฐานรากเกิดการวิบัติได้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่วิศวกรจะทำการออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น จึงต้องจัดให้มีการเจาะสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เพื่อการวิเคราะห์ดินจากประสบการณ์และการสังเกต เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับดินในส่วนใดแล้ว จะต้องมีการวางแผนการสำรวจดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ต่างๆ จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะสมที่สุดไปกับดินทุกสภาพ

การเจาะสำรวจดินในเบื้องต้น เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน การเรียงตัวของชั้นดิน ระดับน้ำใต้ดินและอื่นๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมเครื่องมือและวางแผนงานได้ดี ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนเจาะดินอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเจาะสารวจชั้นดิน โดยทั่วไปจะระบุ ตำแหน่งเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมเจาะสำรวจชั้นดินมีการทดสอบด้านใดบ้าง โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับทำข้อมูลความแข็งแรงของดินและข้อมูลเพื่อใช้คำนวณหาการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง

เครื่องมือที่ใช้สำหรับเจาะสำรวจดินในปัจจุบัน แยกได้ 4 ส่วน คือ เครื่องมือเจาะดิน เครื่องมือเก็บตัวอย่างดิน เครื่องมือทดสอบดินในสนาม และเครื่องมือทดสอบดินในห้องปฏิบัติการ แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเครื่องมือทดสอบดินในสนามเท่านั้น โดยพิจารณาถึงขอบเขตความสามารถของเครื่องมือเป็นหลัก

Trial pit test pit เป็นการขุดหลุมโดยใช้แรงคน ซึ่งหาได้ง่ายในท้องถิ่น สามารถขุดได้กับดินที่ไม่แข็งมาก และในความลึกไม่มาก มีการรบกวนดินน้อยสามารถเห็นการเรียงตัวของชั้นดินได้ง่าย แต่อาจจะเจอปัญหาน้ำใต้ดินเวลาที่ขุดลึกกว่า 2 เมตร และถ้าเป็นดินทรายก็อาจจะมีการพังที่หลุมได้ง่ายกว่าดินชนิดอื่นด้วย
Hand auger borings เป็นเครื่องมือที่ง่ายและอาศัยแรงหมุน Auger และนิยมใช้อยู่สองชนิด คือ Helical auger กับ Iwan หรือ Post-hole auger ใช้เจาะดินที่มีแรงยึดเหนี่ยวหรือดินเหนียวมากๆ สามารถเจาะได้ความลึก 5 – 7 เมตร โดยต่อก้านเหล็ก ขนาดของหลุมเจาะด้วย Auger นี้จะมีขนาดประมาณ 2.5 ถึง 4 นิ้ว
Mechanical auger borings เป็นการใช้เครื่องจักรสำหรับหมุน Auger ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและเจาะดินได้ลึกมากขึ้น ระบบการทำงานได้กำลังเจาะมาจากเครื่องยนต์ที่มีกำลังไม่น้อยกว่า 25 แรงม้า หัวเจาะดินขึ้นลงได้ด้วยระบบไฮดรอลิกส์ ซึ่งนิยมกันมากในประเทศไทย
Shell and auger boring เป็นการเจาะดินด้วย Helical auger ร่วมกับการใช้ท่อ Casing สำหรับดินที่ไม่มีความเชื่อมแน่นเพื่อป้องกันการพังทลายด้านข้างของหลุม ใช้ได้กับดินทุกชนิด นิยมสูบน้ำลงไปในหลุมเพื่อเก็บเศษกรวดและทราย ที่ไหลล้นออกมากับน้ำ
Continuous-flight auger boring ใช้สำหรับดินเหนียวหรือดินทราย หรือกรวดที่มีเม็ดเล็ก มีลักษณะเป็นเกลียวสว่านติดอยู่รอบก้านเจาะโดยตลอดความยาวของก้านเจาะ นิยมใช้กันโดยทั่วไปเช่นกัน
Wash boring เป็นการใช้ความดันของน้ำที่มีส่วนผสมกับสารแขวนลอย (Bentonite) ทำให้ดินหลวมและหลุดลอยเป็นเม็ดขึ้นมา ในการผสมใช้สัดส่วนความหนาแน่น 1.1 ถึง 1.2 ตันต่อลูกบาศก์เมตร ตัวอย่างดินที่ลอยขึ้นมาจะผสมกับน้ำทำให้การนำส่วนที่ตกตะกอนไปวิเคราะห์ได้ผลไม่ละเอียดเท่าที่ควร แต่ก็นิยมใช้กันมากเพราะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว
Wash probing เป็นการเจาะดินอย่างง่ายๆ โดยใช้น้ำฉีดลงไปดิน ใช้ประโยชน์ในการหา ความเปลี่ยนแปลงของดินอ่อนหรือหลวมไปหาดินที่แน่นแข็ง นิยมใช้กันมากในการตอกเสาเข็มหรือสำรวจหาชั้นหิน สามารถทำงานได้ง่าย ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
Rotary boring or Rotary drilling เป็นการใช้ใบมีดหรือหัวเจาะหมุนลงไปในดิน โดยกำลังของเครื่องยนต์ ทำงานได้เร็ว นิยมใช้สำหรับเจาะหิน แต่ต้องใช้น้ำเป็นตัวช่วยระบายความร้อนที่หัวเจาะที่ก้นหลุมด้านล่าง
Percussion boring or Percussion drilling เป็นการเจาะที่ต้องอาศัยแรงกระแทกของ Heavy chisel หรือ Spun หรือ Wash boring ในการนำดินขึ้นมาจากหลุม เนื่องเพราะมีแรงกระแทกด้วยของที่หนัก จึงทำให้เป็นการรบกวนตัวอย่างดินในชั้นที่อยู่ลึกลงไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีประสบการณ์ ความชำนาญในการควบคุมการเจาะในการปล่อยน้ำหนักเพื่อให้รบกวนดินน้อยที่สุด
การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ

ตัวอย่างดินเปลี่ยนสภาพ (Disturbed Sample) เป็นตัวอย่างดินที่ถูกรบกวน จนทำให้โครงสร้าง หรือการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนไป หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากวิธีการเก็บตัวอย่างดิน การขนส่ง และการเก็บรักษาตัวอย่างดิน ซึ่งได้แก่ ตัวอย่างดินที่ได้จากการทดสอบด้วยสว่านมือ และตัวอย่างดินที่ได้จากการตอกวัดค่าด้วยกระบอกผ่า ดินที่ได้ไม่สามารถนำไปทดสอบด้านการรับน้ำหนักของดินได้ เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทก การอัด ซึ่งโครงสร้างของดินได้เปลี่ยนไป แต่สามารถนำไปหาคุณสมบัติเพื่อจำแนกประเภทของดินได้
ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม โดยพยายามให้ทั้งโครงสร้างและองค์ประกอบของดินทุกอย่างเหมือนกับสภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสนาม ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บจากกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้ว ขึ้นไป ถือว่าเป็นตัวอย่างดินที่มีคุณภาพดีที่สุด สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่างๆ ในห้องปฏิบัติการเกือบทุกอย่าง รวมถึงคุณสมบัติในความแข็งแรง และคุณสมบัติในการรับน้ำหนักของดิน
ชนิดของกระบอกเก็บตัวอย่างดิน

Piston sample นิยมใช้กับตัวอย่างดินประเภทไม่มีความเชื่อมแน่น ชนิดแบบนี้ค่อนข้างดีสำหรับงานวิจัย หรืองานก่อสร้างขนาดใหญ่
Opendrive sample เป็นท่อเหล็กกระบอกเส้นผ่าศูนย์กลาง 38-100 มม. ยาว 45-50 ซม. ปลายด้านล่างสวม Cutting shoe ซึ่งถอดออกได้ ปลายด้านบนต่อกับกระบอกเก็บตัวอย่างดินโดยใช้ค้อนกระแทกให้กระบอกจมลงไปในดิน ตัวกระบอกส่วนมากทำจากโลหะไร้สนิม ซึ่งส่วนมากจะใช้เก็บดินอ่อน
Standard split spoon sample เป็นกระบอกผ่าครึ่งสองซีก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอก 2 นิ้ว ยาว 24 นิ้ว ใช้ในการทดสอบ S.P.T. ด้านปลายกระบอกมี Cutting shoe สวมไว้ ใช้กับดินทรายหรือดินที่มีทรายปนอยู่มาก แต่ตัวอย่างดินจะถูกรบกวนมากทำให้ดินแปรสภาพได้
Foll sample เป็นการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านตัวกระบอกเก็บตัวอย่างดินและ Piston อาศัยแผ่นเหล็กกว้าง 13 มม. และหนา 0.40-1.00 มม. สัมผัสกับดินก่อนเข้ากระบอกเก็บตัวอย่างซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดทานหรือแรงอัดที่มีต่อดินได้
Bishop compressed air sample ออกแบบเพื่อใช้ในการเก็บดินที่ไม่มีความเชื่อมแน่นที่อยู่ใต้ระดับน้ำ ซึ่งเก็บตัวอย่างดินได้ยาก และเป็นปัญหาในการสำรวจดิน การทำงานของเครื่องมือค่อนข้างจะยุ่งยากซับซ้อน เพราะต้องอัดอากาศในกระบอกด้วยความดันสูงเพื่อไล่น้ำออกและให้ดินสามารถทรงตัวอยู่ในกระบอกเก็บดินได้ ในอังกฤษนิยมใช้กระบอกเก็บดินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายใน 60 มม. ซึ่งเล็กกว่า Bell ไม่มากนัก จะต้องตอก Casing ไปจนถึงระดับที่ต้องการก่อนดำเนินการเก็บตัวอย่างดิน ควรใช้เก็บตัวอย่างในส่วนที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น เพราะจะพบกับอุปสรรคในการนำดินออกจากกระบอกไปทดสอบในภายหลัง บางครั้งจึงมีข้อแนะนำจนผู้เชี่ยวชาญเสนอให้เลือกการทดสอบในสนามแทนที่ โดย Serota and Jennings (1957) ได้ประยุกต์เครื่องมือนี้ขึ้นอีกโดยการอัดอากาศเข้ายังกระบอกเก็บดินซึ่งอยู่ด้านในโดยตรงที่ปลายกระบอกด้านล่าง

แหล่งข้อมูล – แผนกช่างก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่


Miss Spunpile 

Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service) Certified by SGS (Thailand) Ltd.

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 15-50 ตัน/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดเสาเข็มและสภาพชั้นดิน แต่ละพื้นที่ ทดสอบโดย Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447 (คุณจิน)
☎️ 082-790-1448 (คุณสปัน)
☎️ 082-790-1449 (คุณปุ๊ก)
☎️ 091-9478-945 (คุณสปัน)
☎️ 091-8954-269 (คุณสปัน)
☎️ 091-8989-561 (คุณมาย)
📲 https://lin.ee/hum1ua2
🎥 https://lin.ee/gN4OMZe
📥 https://m.me/bhumisiam

 

🌎 Web:
bhumisiam.com
micro-pile.com
spun-micropile.com
microspunpile.com
bhumisiammicropile.com

“ฝากคำถาม-เราจะมาตอบให้” การจำแนกประเภทว่าโครงสร้างเสานั้นเป็นโครงสร้างเสาสั้นหรือโครงสร้างเสายาว

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

ในทุกๆ วันศุกร์ (แห่งชาติ) แบบนี้ ผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะได้มาพูดคุยและเสวนากันถึงหัวข้อ “ฝากคำถาม-เราจะมาตอบให้” นะครับ
ตามที่ผมได้รับปากกับเพื่อนๆ ไว้ว่าในวันนี้ผมจะขออนุญาตมาขยายความเกี่ยวกับเรื่องค่าต่างๆ และวิธีในการจำแนกว่าโครงสร้างเสา คสล ของเรานั้นมีลักษณะเป็น โครงสร้างเสาที่มีความสั้น หรือ โครงสร้างเสาที่มีความชะลูด ด้วยวิธีหน่วยแรงใช้งานให้กับเพื่อนๆ ได้รับทราบกันต่อจากในโพสต์ที่แล้วนะครับ


ซึ่งก็จะเป็นไปตามที่ผมได้ทำการอธิบายถึงในการโพสต์ครั้งก่อนหน้านี้ว่า เวลาที่เราทำการพิจารณาทำการออกแบบหน้าตัดของโครงสร้างเสา คสล เราจะต้องทำการพิจารณาถึงลักษณะเฉพาะต่างๆ ของตัวเสาเองด้วย อาทิ รูปแบบของแรงที่เป็นตัวควบคุมการออกแบบ เช่น เมื่อแรงอัดเป็นตัวควบคุมการออกแบบ หรือ COMPRESSION CONTROL หรือ เมื่อแรงดึงเป็นตัวควบคุมการออกแบบ หรือ TENSION CONTROL เป็นต้น ทั้งนี้รูปแบบของการเซของตัวโครงสร้างเสา คสล ก็เช่นเดียวกัน เช่น เป็นโครงสร้างเสาที่อยู่ในระบบโครงสร้างที่ไม่มีการเซ หรือ NON‒SWAY FRAME หรือ เป็นโครงสร้างเสาที่อยู่ในระบบโครงสร้างที่มีการเซ หรือ SWAY FRAME เป็นต้น แม้กระทั่งรูปแบบของการโก่งตัวของโครงสร้างเสา คสล เช่น มีการโก่งตัวแบบทางเดียวหรือ SINGLE CURVATURE หรือ มีการโก่งตัวแบบสองทางหรือ DOUBLE CURVATURE เป็นต้น ดังนั้นหากเรามีความต้องการที่จะจำแนกออกมาให้ได้ว่า โครงสร้างเสาของเรานั้นจะมีลักษณะเป็นโครงสร้างเสาที่มีความชะลูดตามมาตรฐานการออกแบบของวิธีหน่วยแรงใช้งานใช่หรือไม่?

เราก็จะต้องทำการพิจารณาจากค่า Lu/r และค่า k×Lu/r โดยที่ค่า Lu ก็คือ ระยะความยาวของโครงสร้างเสาที่ไม่มีการค้ำยันทางด้านข้าง ค่า r ก็คือ ระยะรัศมีไจเรชั่นน้อยที่สุดของโครงสร้างเสา และค่า k ก็คือ ค่าตัวคูณประกอบความยาวประสิทธิผล ร่วมกันกับกรณีเฉพาะต่างๆ ของโครงสร้างเสาที่ผมได้ทำการเอ่ยถึงไปแล้วข้างต้น ทั้งนี้ก็เพื่อที่เราจะได้นำเอาค่าและข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ไปใช้ในการคำนวณหา ค่าตัวคูณลดกำลังใช้งานของโครงสร้างเสา หรือ WORKING STRENGTH REDUCTION FACTOR หรือที่พวกเรานิยมทำการเขียนออกมาสั้นๆ ด้วยตัวย่อว่าค่า R หลังจากนั้นเราก็จะนำเอาค่าๆ นี้ไปหารกันกับค่ากำลังรับแรงอัดตามแนวแกนใช้งานและค่ากำลังรับแรงดัดใช้งานของโครงสร้างเสาที่เราทำการคำนวณหามาโดยการวิเคราะห์โครงสร้าง เพื่อสุดท้ายแล้วเราก็จะได้ค่ากำลังรับแรงอัดออกแบบและค่ากำลังรับแรงดัดออกแบบของโครงสร้างเสาออกมานั่นเองครับ

ทั้งนี้ผมต้องขอให้เพื่อนๆ นั้นทำการพิจารณารูปที่ผมได้นำเอามาใช้ในการโพสต์ในครั้งนี้ไปพร้อมๆ กันด้วย โดยที่จะมีรายละเอียดและวิธีการในการพิจารณาแบ่งออกตามกรณีหลักๆ ดังต่อไปนี้นะครับ
กรณี A
กรณีที่โครงสร้างเสาของเรานั้นรับเฉพาะเพียงแค่ค่าแรงอัดกระทำตามแนวแกนเพียงแรงเดียว ดังนั้นสำหรับกรณีๆ นี้ก็คือค่า Ecc นั้นจะมีค่าที่น้อยกว่าค่า Ecc,a ซึ่งค่าตัวคูณลดกำลังใช้งานของโครงสร้างเสานั้นจะสามารถทำการคำนวณออกมาได้จากสมการดังต่อไปนี้
R = 1.07 – 0.008×Lu/r ≤ 1.00 EQ.(1)

กรณี B
กรณีที่โครงสร้างเสาของเรานั้นจะต้องรับทั้งค่าแรงอัดกระทำตามแนวแกนและค่าแรงดัดพร้อมๆ กันด้วย ดังนั้นสำหรับกรณีๆ นี้ก็คือค่า Ecc นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นกรณีย่อยๆ ดังต่อไปนี้
กรณี B1.0
กรณีที่การออกแบบนั้นมีแรงอัดเป็นตัวควบคุมการออกแบบ ดังนั้นสำหรับกรณีๆ นี้ก็คือค่า Ecc นั้นจะมีค่าที่มากกว่าค่า Ecc,a แต่ก็จะน้อยกว่าค่า Ecc,b ซึ่งก็จะถูกแบ่งออกเป็นกรณีย่อยๆ ดังต่อไปนี้
กรณี B1.1
กรณีที่โครงสร้างเสาที่อยู่ในระบบโครงสร้างที่ไม่มีการเซหรือพูดง่ายๆ ก็คือที่บริเวณปลายของโครงสร้างเสานั้นไม่มีการเคลื่อนที่เกิดขึ้นเลย ดังนั้นค่า k จึงมีค่าเท่ากับ 1.00 ซึ่งก็จะถูกแบ่งออกเป็นกรณีย่อยๆ ดังต่อไปนี้
กรณี B1.1A

กรณีที่โครงสร้างเสานั้นมีการโก่งตัวแบบสองทาง ซึ่งก็จะถูกแบ่งออกเป็นกรณีย่อยๆ ดังต่อไปนี้
– หากว่าค่า Lu/r นั้นมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 60 แต่ยังมีค่าที่น้อยกว่า 100 หากเป็นเช่นนี้ก็ให้ทำการคำนวณหาค่า R ได้จากสมการดังต่อไปนี้
R = 1.32 – 0.006×Lu/r ≤ 1.00 EQ.(2)
– หากว่าค่า Lu/r นั้นมีค่าที่มากกว่า 100 ก็ให้ทำการวิเคราะห์โครงสร้างโดยการคำนึงถึงผลของการเกิดการโก่งตัวที่มีต่อค่าแรงดัดที่เกิดขึ้นในเสาด้วย
กรณี B1.1B

กรณีที่โครงสร้างเสานั้นมีการโก่งตัวแบบทางเดียวก็ให้ทำการคำนวณหาค่า R ได้จากสมการดังต่อไปนี้
R = 1.07 – 0.008×Lu/r ≤ 1.00 EQ.(3)
กรณี B1.2

กรณีที่โครงสร้างเสาที่อยู่ในระบบโครงสร้างที่มีการเซหรือพูดง่ายๆ ก็คือที่บริเวณปลายของโครงสร้างเสานั้นจะเกิดการเคลื่อนที่ขึ้น ดังนั้นค่า k จึงย่อมจะมีค่ามากกว่า 1.00 หากเป็นเช่นนี้ก็ให้ทำการคำนวณหาค่า R ได้จากสมการดังต่อไปนี้
R = 1.07 – 0.008×k×Lu/r ≤ 1.00 EQ.(4)

หากเราพบว่าบริเวณปลายของโครงสร้างเสานั้นจะเกิดการเคลื่อนที่ขึ้นเนื่องจากแรงกระทำที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เช่น แรงกระทำจากแรงลม แรงกระทำจากการสั่นสะเทือนอันเนื่องมาจากคลื่นแผ่นดินไหว เป็นต้น ดังนั้นเราจะสามารถปรับให้ค่า R ใน EQ.(4) นั้นเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 ได้ หรืออาจจะเขียนอยู่ในรูปของสมการได้ว่า
R = 1.18 – 0.009×k×Lu/r ≤ 1.00 EQ.(5)
กรณี B2.0

กรณีที่การออกแบบนั้นมีแรงดึงเป็นตัวควบคุมการออกแบบ ดังนั้นสำหรับกรณีๆ นี้ก็คือค่า Ecc นั้นก็จะออกมามีค่าที่มากกว่าค่า Ecc,b เสมอ ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้เราจะเปลี่ยนมาใช้เป็นค่า R’ แทน โดยให้เราทำการคำนวณหาค่า R ออกมาก่อน ซึ่งจะได้จากการพิจารณารายละเอียดตามที่ได้ระบุเอาไว้ในข้อ B1.1 และ B1.2 สุดท้ายเราก็จะสามารถทำการคำนวณหาค่า R’ ออกมาได้จากสมการดังต่อไปนี้
R’ = 1 – ( 1 – R ) × Ecc,b / Ecc ≥ R EQ.(6)

เอาไว้ในครั้งหน้าที่เราจะกลับมาพบกัน ผมจะขออนุญาตมาขยายความเกี่ยวกับเรื่องค่าต่างๆ และวิธีในการที่จะถูกนำเอามาใช้ในการจำแนกว่าโครงสร้างเสา คสล ของเรานั้นมีลักษณะเป็น โครงสร้างเสาที่มีความสั้น หรือ โครงสร้างเสาที่มีความชะลูด โดยวิธีกำลังให้กับเพื่อนๆ ได้รับทราบกันบ้าง หากเพื่อนๆ ท่านใดที่อาจจะมีความสนใจในหัวข้อๆ นี้เป็นพิเศษ ก็สามารถที่จะติดตามอ่านบทความของผมได้ในการโพสต์ครั้งต่อไปนะครับ

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านจากคำถามในวันนี้น่าที่จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ
#โพสต์วันศุกร์
#ฝากคำถามแล้วเราจะมาตอบให้
#การจำแนกประเภทว่าโครงสร้างเสานั้นเป็นโครงสร้างเสาสั้นหรือโครงสร้างเสายาว
#ครั้งที่2
ADMIN JAMES DEAN


Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
☎️ 091-8989-561
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการแตกร้าวในคอนกรีต

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการแตกร้าวในคอนกรีต

ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการแตกร้าวขึ้นในคอนกรีตสามารถอาจสามารถที่จะสรุปได้ดังนี้
1) วัตถุดิบและสัดส่วนการผสมคอนกรีต อัน ได้แก่ วัสดุมวลรวม ปูนซีเมนต์ น้ำ น้ำยาผสมคอนกรีต
– วัสดุมวลรวม ได้แก่ หิน ทราย แร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบ รูปร่างลักษณะของผิวและส่วนคละของวัสดุมวลรวมมีผลต่อการออกแบบส่วนผสม สัมประสิทธิ์การนำความร้อน DRYING SHRINKAGE, STIFFNESS, CREEP และ ความแข็งแรงของคอนกรีต เช่น หินและทรายที่มีดินเหนียวปนอยู่ด้วย จะหดตัวมากกว่าปูนซีเมนต์จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าวได้ง่าย เป็นต้น
– ปูนซีเมนต์ โดยทั่วไปคอนกรีตที่ใช้ปูนซีเมนต์มากหรือเป็นปูนซีเมนต์ที่มีปริมาณซิลิก้าสูงหรือมีความละเอียดสูง เช่น ปอร์ตแลนด์ ประเภท 3 ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดการแตกร้าวได้มาก เป็นต้น
– น้ำ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการผสมคอนกรีตเพราะถ้าใช้น้ำในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดการแตกร้าวได้มาก และ ยังทำให้กำลังอัดของคอนกรีตลดต่ำลงด้วย
– น้ำยาผสมคอนกรีต น้ำยาบางชนิดอาจมีผลทำให้เกิดการแตกร้าวได้ เช่น น้ำยาเร่งการแข็งตัว แต่น้ำยาบางชนิด ก็ช่วยลดการแตกร้าวได้ เช่น น้ำยาหน่วงการก่อตัว เป็นต้น

2) การเทคอนกรีต (PLACING)
อัตราการเท และ สภาพการทำงานมีผลต่อการแตกร้าวอย่างแน่นอน ซึ่งมักเป็นผลมาจากการเยิ้มของคอนกรีต (BLEEDING) น้ำที่ไหลเยิ้มขึ้นมาที่ส่วนบนของคอนกรีต จะทำให้เกิดช่องว่างใต้หิน โดยเฉพาะ ส่วนที่อยู่ลึกๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแตกร้าวภายในได้รวมทั้งการแยกตัวของคอนกรีต อุณหภูมิภายนอก การทรุดตัวไม่เท่ากันของพื้นด้านล่าง หรือ ส่วนที่เป็นแบบรองรับคอนกรีต ก็สามารถทำให้เกิดการแตกร้าวได้เช่นกัน

3) สภาพการทำงาน นับเป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามาเกี่ยวข้องในขณะทำงานได้
– อุณหภูมิ (TEMPERATURE) ปกติอัตราการรับกำลังได้ของคอนกรีตจะแปรตามอุณหภูมิ อย่างไรก็ตามอิทธิพลที่สำคัญของอุณหภูมิที่มีต่อคอนกรีต คือ เมื่อคอนกรีตเย็นตัวลง จะหดตัว โดยเฉพาะงานคอนกรีตในอากาศร้อน และ งานคอนกรีตปริมาณมากๆ (MASS CONCRETE) ดังนั้นพื้นคอนกรีตที่หล่อขณะอากาศเย็นจะเกิดการแตกร้าวน้อยกว่าหล่อขณะอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้จะเกิดกับงานคอนกรีตสำหรับโครงสร้างอื่นๆ ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ การเทคอนกรีตในปริมาณมากๆ จึงมักทำการเทในเวลากลางคืนที่มีอากาศเย็นกว่า
– การสัมผัสกับสภาพรอบข้าง (EXPOSURE) ลักษณะอากาศที่คอนกรีตสัมผัสมีอิทธิพลอย่างมากต่อการแตกร้าวของคอนกรีต อุณภูมิและความชืื้นที่แตกต่างกันมากในช่วงวัน เป็นผลทำให้เกิดการรั้งภายในของคอนกรีตอย่างมาก (INTERNAL RESTRAINT) เพราะการยืดหดตัวของผิว และ ส่วนที่อยุ่ภายในจะไม่เท่ากันทำให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าวได้

4) การบ่มคอนกรีต (CURING)
ความชื้นในคอนกรีตเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าก่อนหรือหลังการบ่ม สำหรับงานพื้นถ้าคอนกรีตแห้งเร็วเกินไป อัตราการระเหยของน้ำที่ผิวหน้าคอนกรีตอาจจะเร็วกว่าอัตราการเยิ้ม (BLEEDING) เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ผิวหน้าของคอนกรีตจะเกิดการหดตัว ทำให้เกิดการแตกร้าวขึ้น การป้องกันสามารถทำได้โดยทำให้แบบหล่อซุ่มน้ำหลกเลี่ยงการเทคอนกรีตในข่วงทีทมีอุณภูมิสูง บ่มคอนกรีตในทันทีที่ทำได้ พยายามป้องกันลมและแสงแดดขณะเทคอนกรีตเพื่อไม่ให้น้ำในคอนกีตระเหยเร็วเกินไป

5) การยึดรั้งตัว (RESTRAINT)
คอนกรีตที่ถูกยึดรั้งไว้จะไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ไม่ว่าจะเป็นการยึดรั้งจากฐานรากหรือโครงสร้างใกล้เคียง จะทำให้เกิดการแตกร้าวขึ้นได้ การเกิดรอยแตกในแนวดิ่งที่ฐานกำแพงของอาคารถือเป็นเรื่องปกติ ถ้ารอยแตกนั้นไม่ขยายต่อถึงด้านบน ดังนั้นจึงมักพบว่า กำแพงหรือพื้นยาว ที่ไม่มีการตัด JOINT มักจะเกิดรอยแตกขึ้นเป็นช่วงๆ ส่วนกำแพงที่หล่อติดเป็นชิ้นเดียวกันกับโครงสร้าง มีโอกาสที่จะแตกร้าวทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ การยึดรั้งก็มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการทรุดไม่เท่ากันของโครงสร้าง

โดยทั้วไป คอนกรีตที่ถูกยึดรั้งไม่ให้หดตัวสูงจะเกิดรอยแตกขึ้นมา แต่รอยแตกเหล่านี้จะมีลักษณะเป็นรอยแคบๆ การเสริมกำแพงหรือพื้นด้วยเหล็กปริมาณมากๆ ทำให้เกิดรอยแตกราวลักษณะนี้มากกว่าการเสริมเหล็กในปริมาณที่น้อยกว่า หรือ ที่มักเรียกว่าเหล็กเสริมต้านทานอุณหภูมิ (TEMPERATURE REINFORCEMENT) แต่เมื่อรวมความกว้างของรอยแตกแล้วทั้ง 2 กรณี จะมีความกว้างเท่าๆ กัน ทำนองเดียวกัน เหล็กที่รับแรงดึงสูง (HIGH YIELD POINT STEEL) จะทำให้เกิดรอยแตกกระจายอยู่ทั่วไปมากกว่าเหล็กก่อสร้างทั่วไป (STRUCTURAL GRADE STEEL) รอยแตกแคบๆ มักไม่ก่อให้เกิด ปัญหาเพราะสังเกตได้ยากและฝนมีโอกาศซึมผ่านได้ค่อนข้างน้อย

คอนกรีตที่เกิดการยึดรั้งภายในอาจเกิดขึ้นได้ถ้าเป็นโครงสร้างเดียวกัน แต่ใช้คอนกรีตที่มีส่วนผสมต่างกันเช่นใช้ปูนซีเมนต์ไม่เท่ากัน หรือ มีสัดส่วนของหินและทรายที่ต่างกัน

จากที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด จะเห็นได้ว่าสาเหตุการแตกร้าวของคอนกรีตนั้นมีมากมายซึ่งมักจะไม่ได้เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียวแต่มักจะเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุพร้อมกัน

Miss Spunpile 

Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

#ไมโครไพล์ #เสาเข็มไมโครไพล์ #Micropile

“ความรู้ดีๆ เรื่องวิศวกรรมงานฐานราก งานดินและเสาเข็ม” โครงสร้างกันดินเสริมแรง

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

ในทุกๆ วันพฤหัสบดีแบบนี้ ผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เรื่องวิศวกรรมงานฐานราก งานดินและเสาเข็ม” นะครับ

วันนี้ผมจะมาขออนุญาตพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกันลักษณะของโครงสร้างประเภทหนึ่งซึ่งจะทำหน้าที่เสมือนเป็นโครงสร้างกันดินเพียงแต่ความแตกต่างของโครงสร้างชนิดนี้ก็คือ จะเป็นการนำเอาทฤษฎีการออกแบบโครงสร้างฐานรากผนวกเข้ากับการออกแบบโครงสร้างกันดินมาใช้ในการทำงานออกแบบโครงสร้างชนิดนี้นั่นก็คือ โครงสร้างกันดินเสริมแรง หรือ REINFORCED EARTH STRUCTURE นั่นเองครับ

ในการออกแบบลักษณะของโครงสร้างประเภทนี้เราจะใช้งานวัสดุดินซึ่งจะต้องได้รับการบดอัดก่อนและเนื่องจากว่าตัวดินเองนั้นมีความสามารถในการรับแรงดึงที่ต่ำมากๆ เราจึงจำเป็นที่จะต้องใช้งานชิ้นส่วนวัสดุจำพวกเหล็กร่วมด้วย ซึ่งวัสดุดังกล่าวนี้ก็จะมีคุณสมบัติในการต้านทานแรงดึงที่ดีเป็นคุณลักษณะพิเศษอยู่แล้วและนอกเหนือไปจากเหล็กเสริมแล้วเรายังอาจจะใช้เป็นวัสดุอื่นๆ แทนก็ได้ อาทิเช่น วัสดุ FABRICS หรือวัสดุ GEOGRID ก็ยังได้ เป็นต้น ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวนี้อาจจะถูกนำเอามาใช้เป็นโครงสร้างชั่วคราวหรือ TEMPORARY STRUCTURE หรือ โครงสร้างถาวร หรือ PERMANENT STRUCTURE ก็ยังได้นะครับ

หากดูจากรูปที่ผมได้นำเอามาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้จะเห็นได้ว่าเป็นโครงสร้างกันดินเสริมแรงที่จะประกอบไปด้วย แถบเหล็ก หรือ TIE ซึ่งจะทำหน้าที่ในการต้านทานแรงดึงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เราจะเห็นได้ว่า ส่วนที่เป็นผิวนอก หรือ SKIN นั้นจะเป็นโครงสร้างที่ทำจากวัสดุประเภทที่มีความยืดหยุ่นตัวสูงและมีลักษณะของผิวที่ค่อนข้างจะมีความบาง เช่น แผ่นเหล็ก หรือ แผ่น คสล ที่จะต้องได้รับการเสริมแรงเพื่อให้จุดต่อของโครงสร้างนั้นมีความมั่นคงและแข็งแรงที่มากเพียงพอ เป็นต้น สำหรับระยะห่างในแนวดิ่งนั้นจะมีค่าเท่ากับ s ส่วนระยะห่างในแนวราบนั้นจะมีค่าเท่ากับ h สำหรับดินที่จะต้องอยู่ที่บริเวณด้านหลังโครงสร้างนี้อาจจะต้องเป็นดินที่ต้องได้รับการคัดสรรคุณสมบัติให้มีความเหมาะสมต่อจุดประสงค์ในการใช้งานก่อน หลังจากนั้นก็ทำการบดอัดไปทีละชั้นๆ ไล่ไปเรื่อยๆ ตามความสูงของโครงสร้างกันดินเสริมแรงซึ่งอาจจะมีความสูงได้มากถึงประมาณ 15 – 20 M เลยก็มีความเป็นไปได้นะครับ

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านจากคำถามในวันนี้น่าที่จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ
#โพสต์วันพฤหัสบดี
#ความรู้เกี่ยวกับการทำงานเสาเข็มและฐานราก
#โครงสร้างกันดินเสริมแรง
ADMIN JAMES DEAN


Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
☎️ 091-8989-561
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

งานสร้างใหม่ ไว้ใจภูมิสยาม ใช้เสาเข็มสปันไมโครไพล์ และไอไมโครไพล์ เสาเข็มคุณภาพ

posted in: PILE DRIVING

งานสร้างใหม่ ไว้ใจภูมิสยาม ใช้เสาเข็มสปันไมโครไพล์ และไอไมโครไพล์ เสาเข็มคุณภาพ

เสาเข็มเป็นสิ่งสำคัญ ในการสร้างใหม่ เพื่อเป็นฐานรากในการรองรับน้ำหนักโครงสร้าง และเพื่อป้องกันการทรุดตัวที่อาจจะเกิดขึ้น การเลือกใช้เสาเข็มก็มีความสำคัญ เราขอแนะนำเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และไอไมโครไพล์ หรือเสาเข็มไอ
โดยภูมิสยาม เป็นเสาเข็มที่เหมาะกับทุกงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะต่อเติมหรือสร้างใหม่ เพราะเป็นเสาเข็มที่มีขนาดเล็ก แต่มีความสามารถในการรับน้ำหนักที่สูง เสาเข็มแต่ละท่อนสามารถเชื่อมต่อติดกันได้โดยการเชื่อม
และใช้ปั้นจั่นที่ถูกออกมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถตอกเสาเข็มได้ลึกถึงชั้นดินทรายแข็ง ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test
เสาเข็มได้รับอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานการออกแบบการผลิตและตอก ISO 9001:2015 และชีวอนามัยด้านความปลอดภัยในการตอก ISO 45001:2018

เสาไอไมโครไพล์ เสาไอไมโครไพล์ เสาไอไมโครไพล์

ต้องการเสาเข็ม ที่เหมาะสำหรับงานสรางใหม่ ไว้ใจเลือกใช้เสาเข็มสปันไมโครไพล์ และไอไมโครไพล์ ภูมิสยาม เราพร้อมบริการทั่วประเทศ

ภูมิสยามผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และไอไมโครไพล์ I Micropile เสาเข็มคุณภาพโดยภูมิสยามช่วยแก้ปัญหาการก่อสร้างต่อเติมหรือสร้างใหม่สะดวกสะอาดรวดเร็วค่ะ เสาเข็มผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน เสาเข็มคุณภาพมาตรฐาน มอก. และคุณภาพมาตรฐานโรงงาน กระบวนการผลิตและการตอกได้มาตรฐาน ISO 9001:2015 และ ISO 45001:2018
✔️ รับประกัน 7 ปี! (เสาเข็มสปัน)
✔️ รับประกัน 3 ปี! (เสาเข็ม I)
✔️ ออกแบบฐานรากฟรี
✔️ รายการคำนวณฟรี
✔️ สำรวจหน้างานฟรี
✔️ การตอก ISO 9001:2015
✔️ การตอก ISO 45001:2018
✔️ SCG Endorsed Brand
✔️ สะสม Point แลกรับรางวัล
✔️ MICROPILE TRAINING CENTER ศูนย์ฝึกอบรมอาชีพ การตอกเสาเข็มไมโครไพล์
✔️ ประกันความเสียหายระหว่างตอกโดยกรุงเทพประกันภัย
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
☎️ สายด่วนภูมิสยาม:
082-790-1447
082-790-1448
082-790-1449
091-947-8945
091-895-4269
📲 ไลน์ภูมิสยาม:
1) LINE ID: bsp15
2) LINE ID: bsp829
3) LINE ID: 0827901447
4) LINE ID: 0827901448
5) LINE ID: 0918954269
LINE OA: @bhumisiam
🌎 เว็บไซต์:
🔘 Products
🔶 รายการเสาเข็มและการรับน้ำหนัก:
⬆️เสาเข็มไอ ไมโครไพล์
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
⏹เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
⏺เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
😎 Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น
*การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินแต่ละพื้นที่

วิธีในการออกแบบโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างเสาเหล็กรูปพรรณ

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

กลับมาพบกันในทุกๆ วันจันทร์แบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เพื่อคุณผู้หญิง” นะครับ

จริงๆ แล้วในสัปดาห์นี้ผมตั้งใจที่จะขึ้นหัวข้อใหม่แล้วแต่สืบเนื่องจากตัวอย่างที่ผมได้นำเอามาแสดงต่อเพื่อนๆ ในโพสต์ของเมื่อสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับเรื่องวิธีในการออกแบบโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างเสาเหล็กรูปพรรณ หรือ COLUMN BEARING PLATE ซึ่งได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ซึ่งเหตุก็อยู่ตรงที่มีคอมเม้นต์สอบถามเข้ามาในทำนองเดียวกัน ตัวอย่างเช่น จะทำอย่างไรดีหากเราอยากที่จะทำให้การออกแบบนั้นให้ออกมาง่ายๆ ไม่ต้องแก้สมการอะไรเยอะแยะ หรือ จะทำอย่างไรดีหากไม่ต้องการที่จะออกแบบให้เจ้าสลักเกลียวแบบฝังยึดนั้นต้องรับแรงดึงเหมือนกันกับตัวอย่างที่ผมได้แสดงให้ดูเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว เป็นต้นนะครับ

ผมเลยตอบไปในอินบ็อกซ์ในทันทีเลยว่า ทำได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็จะทำยากนิสนึงนะและก็ได้รับปากกับเพื่อนๆ ที่ได้ถามเข้ามาว่า ผมจะทำการให้ตัวอย่างเพื่อเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับประเด็นคำถามที่เพื่อนๆ นั้นได้ถามไถ่กันเข้ามาเป็นโพสต์สุดท้ายของหัวข้อๆ นี้ ซึ่งวิธีการที่ผมบอกว่า สามารถที่จะทำได้แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็จะทำยากสักหน่อย ก็ง่ายๆ ตรงไปตรงมามากๆ นั่นก็คือ เราก็อย่าทำการออกแบบให้ขนาดของโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างเสาเหล็กรูปพรรณต้องรับหน่วยแรงดึง เพียงเท่านี้เจ้าสลักเกลียวแบบฝังยึดก็จะไม่ต้องทำหน้าที่รับแรงดึงแล้ว โดยเราอาจจะใส่แค่สลักเกลียวแบบฝังยึดเพื่อให้รับแรงเฉือนที่จะเกิดจากแรงกระทำในแนวราบของโครงสร้างซึ่งก็มักจะไม่ได้มีมากมายอะไรนัก เอาเป็นว่าเพื่อให้เพื่อนๆ นั้นมองเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายดายยิ่งขึ้น เราไปดูตัวอย่างข้อนี้พร้อมๆ กันเลยก็แล้วกันนะครับ


ในรูปๆ นี้เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าเป็นรูปโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณซึ่งจะต้องทำหน้าที่ในการรับแรงกระทำในแนวดิ่งในกรณีของน้ำหนักบรรทุกแบบใช้งานจะมีค่าเท่ากับ 20 T และสุดท้ายก็คือแรงโมเมนต์ดัดในกรณีของน้ำหนักบรรทุกแบบใช้งานจะมีค่าเท่ากับ 6 T-M ผมขอสมมติให้คอนกรีตที่บริเวณฐานรองรับของเรานั้นมีค่ากำลังรับแรงอัดประลัยของตัวอย่างคอนกรีตรูปทรงกระบอกขนาดมาตรฐานหรือ fc’ ให้มีค่าเท่ากับ 280 KSC ทั้งนี้หากเพื่อนๆ เป็นวิศวกรโครงสร้างในโครงการก่อสร้างแห่งนี้จงทำการตรวจสอบดูว่า ขนาดของเจ้าโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณในปัญหาข้อนี้จะออกมามีค่าเท่ากับเท่าใดหากเราไม่ต้องการให้เจ้าสลักเกลียวแบบฝังยึดของเรานั้นต้องทำหน้าที่รับแรงดึงเหมือนกันกับในตัวอย่างของเมื่อวันจันทร์ที่แล้วนะครับ

ซึ่งจากปัญหาข้อนี้ในเมื่อกรณีของน้ำหนักบรรทุกนั้นเป็นกรณีน้ำหนักบรรทุกแบบใช้งาน ดังนั้นผมก็จะใช้วิธีในการออกแบบตามมาตรฐาน AISC โดย วิธีการหน่วยแรงที่ยอมให้ หรือ ALLOWABLE STRESS DESIGN หรืออาจจะเรียกสั้นๆ ได้ว่าวิธี ASD ก็ได้ โดยที่ในขั้นตอนแรกที่เราจะสามารถจะเริ่มต้นทำการคำนวณได้เลยก็คือ ทำการคำนวณหาค่าระยะเยื้องศูนย์ที่เกิดขึ้นเป็นอันดับแรกนั่นก็คือ
e = M / P
e = 6 × 1000 / ( 20 × 10 )
e = 30 CM

ซึ่งเราต้องการให้เป็นไปตามกรณีที่ 1 นั่นก็คือ เมื่อทำการคำนวณระยะเยื้องศูนย์ออกมาแล้วก็จะพบว่ามีค่าที่ไม่มากไปกว่าระยะ N/6 พูดง่ายๆ ก็คือ ค่า e นั้นค่อนข้างที่จะน้อยมากๆ เลยหรือจะสามารถเขียนให้อยู่ในรูปแบบของสมการได้ว่า
e ≤ N / 6

อย่างแย่ที่สุดก็คือให้เป็นไปตามกรณีที่ 2 นั่นก็คือ เมื่อทำการคำนวณหาค่าระยะเยื้องศูนย์ออกมาแล้วก็จะพบว่ามีค่าที่มากกว่า N/6 แต่ก็ไม่มากไปกว่าหรือเต็มที่เลยก็คือออกมามีค่าเท่ากับระยะ N/2 เลย ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือ ค่า e นั้นจะมีค่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลางหรือจะสามารถเขียนให้อยู่ในรูปแบบของสมการได้ว่า
N / 6 < e ≤ N / 2

ทั้งนี้เพื่อเป็นการคำนึงถึงเหตุผลทางด้านความประหยัดในการก่อสร้าง ดังนั้นผมก็จะทำการเลือกใช้งานให้เป็นไปตามกรณีหลังก็แล้วกันนะครับ
30 = N / 2
N = 30 × 2
N = 60 CM

ดังนั้นผมก็จะเลือกใช้งานระยะของค่า N ให้มีค่าเท่ากับ 65 CM และเมื่อผมใช้เกณฑ์ของกรณีที่ 2 เพื่อเป็นเกณฑ์ในการออกแบบเราก็จะสามารถทำการคำนวณหาค่าระยะที่เจ้าแผ่นเหล็กนี้จะต้องรับแรงอัดหรือระยะ a ออกมาได้เท่ากับ
a = 3 × ( N / 2 ‒ e )
a = 3 × (65 / 2 ‒ 30 )
a = 7.5 CM

สำหรับกรณีนี้ซึ่งพื้นที่ของแผ่นเหล็กหรือ A1 นั้นวางคลุมเต็มเนื้อที่ของคอนกรีตหรือ A2 ดังนั้นค่าหน่วยแรงแบกทานที่ยอมให้ของคอนกรีตก็จะมีค่าเท่ากับ
Fp = 0.35 × fc’
Fp = 0.35 × 280
Fp = 98 KSC

ดังนั้นค่าความกว้างน้อยที่สุดที่เจ้าโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณจะต้องมีก็จะมีค่าเท่ากับ
B = 2 × P / ( a × Fp )
B = 2 × 20 × 1000 / (7.5 × 98 )
B = 54.43 CM

ดังนั้นผมก็จะเลือกใช้งานระยะของค่า B ให้มีค่าเท่ากับ 60 CM ซึ่งเราก็จะทำการตรวจสอบค่าหน่วยแรงแบกทานมากที่สุดซึ่งจะเกิดขึ้นใต้โครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณโดยการนำเอาค่าต่างๆ ที่คำนวณได้ก่อนหน้านี้แทนเข้าไปในสมการสมดุลของแรง
½ × fb,max × a × B = P
fb,max = 2 × P / ( a × B )
fb,max = 2 × 20 × 1000 / ( 7.5 × 60 )
fb,max = 89 KSC < 98 KSC <<OK>>

ขั้นตอนที่เหลือเพื่อนๆ ก็แค่ทำการคำนวณหาค่าหน่วยแรงแบกทานที่หน้าตัดวิกฤติออกมาเพื่อจะได้นำไปคำนวณหาค่าโมเมนต์ดัดมากที่สุดที่เกิดขึ้น เพื่อสุดท้ายแล้วก็จะได้นำค่าดังกล่าวเอาไปใช้ในการออกแบบว่าโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณของเราจะต้องมีความหนาเท่ากับเท่าใดก็เท่านั้นเองครับ

จากผลการออกแบบพบว่าต้องใช้โครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณขนาดความยาวเท่ากับ 65 CM และมีขนาดความกว้างเท่ากับ 60 CM ซึ่งหากเพื่อนๆ ลองทำการเปรียบเทียบกันกับโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณจากตัวอย่างข้อที่แล้วก็จะพบว่า ขนาดของแผ่นเหล็กนั้นต่างกันมากพอดูเลย ซึ่งตรงนี้เองคือสาเหตุว่าเพราะเหตุใดผมจึงได้กล่าวไปในตอนต้นว่า กรณีของการออกแบบให้ง่ายนั้นสามารถที่จะทำได้แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็จะทำได้ยากอยู่เหมือนกันเพราะโดยทั่วๆ ไปนั้นฐานที่จะทำหน้าที่ในการรองรับโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณนั้นมักจะมีขนาดที่ค่อนข้างจะจำกัดมากๆ เลยนะครับ

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เพื่อนๆ มีความต้องการที่จะทำการออกแบบเจ้าโครงสร้างแผ่นเหล็กที่จะทำหน้าที่รองรับแรงกดสำหรับโครงสร้างคานเหล็กรูปพรรณเพื่อนๆ ก็ควรที่จะต้องพิจารณาและทำการออกแบบโครงสร้างดังกล่าวนี้โดยใช้กรณีของการออกแบบที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกันกับข้อจำกัดที่มีอยู่จริงด้วยนะครับ

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านจากคำถามในวันนี้น่าที่จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ
#โพสต์ของวันจันทร์
#ความรู้ที่มีประโยชน์เพื่อคุณผู้หญิง
#การออกแบบแผ่นเหล็กที่มีการติดตั้งสลักเกลียวแบบฝังยึด
#ครั้งที่6
ADMIN JAMES DEAN


บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปัน ไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service) Certified by SGS (Thailand) Ltd.

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 15-50 ตัน/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดเสาเข็มและสภาพชั้นดิน แต่ละพื้นที่ ทดสอบโดย Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)

1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น

2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น

3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น

เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)

4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น

5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น

เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)

6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น

7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น

8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447 (คุณจิน)
☎️ 082-790-1448 (คุณสปัน)
☎️ 082-790-1449 (คุณปุ๊ก)
☎️ 091-9478-945 (คุณสปัน)
☎️ 091-8954-269 (คุณสปัน)
☎️ 091-8989-561 (คุณมาย)
📲 https://lin.ee/hum1ua2
🎥 https://lin.ee/gN4OMZe
📥 https://m.me/bhumisiam

 

🌎 Web:
bhumisiam.com
micro-pile.com
spun-micropile.com
microspunpile.com
bhumisiammicropile.com

ภูมิสยาม จับมือกับกรุงเทพประกันภัย ประกันความเสียหายระหว่างการตอกเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ Spun Micropile

ภูมิสยาม รับประกันผลงานนานถึง 7 ปี พร้อมจับมือกับกรุงเทพประกันภัย ประกันความเสียหายระหว่างการตอกเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ Spun Micropile

ประกันผลงานนานถึง 7 ปี จากการให้บริการตอกเสาเข็มสปันไมโครไพล์ โดยประกันคุ้มครองความเสียหายจากการรับน้ำหนักของเสาเข็มตามที่วิศวกรออกแบบและคำนวณไว้ตามหลักวิศวกรรม ในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นจากการที่เสาเข็มไม่สามารถรับน้ำหนักตามที่วิศวกรได้คำนวณไว้ บริษัทฯ ยินดีทำการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามความเสียหายที่แท้จริง ทั้งนี้ไม่เกินมูลค่าตามที่ในระบุในสัญญาว่าจ้าง (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)

และภูมิสยามฯจับมือกับกรุงเทพประกันภัย เสนอประกันความคุ้มครองระหว่างการตอกเสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micropile ลูกค้าสามารถซื้อประกันเพื่อความคุ้มครองความเสียหายกับทรัพย์สินตัวเองและเพื่อนบ้าน ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ก่อสร้าง บ้านของเพื่อนบ้าน โครงสร้างอาคาร รวมถึงความคุ้มครองต่อร่างกายอันเกิดแก่บุคคลภายนอกโดยอุบัติเหตุ โดยให้ความคุ้มครองสูงถึง 500,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด)

เสาเข็มสปันไมโครไพล์ มาตรฐาน มอก. 397-2524 โดย ภูมิสยาม Bhumisiam มีความแข็งแกร่งสูง จากการสปันแท้ https://youtu.be/EXdkwU_q0_I การตอกได้มาตรฐาน ISO 9001:2015 เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐาน มอก. การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ https://youtu.be/iJr3dLtYAuA หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 20-50 ตัน/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดเสาเข็มและสภาพชั้นดิน แต่ละพื้นที่ ทดสอบโดย Dynamic Load Test เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

Miss Spunpile 

Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

ต่อเติมขยายโรงงาน เลือกใช้เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micropile และไอไมโครไพล์ I-Micropile เสาเข็มเป็นที่นิยมในการต่อเติม

ต่อเติมขยายโรงงาน เลือกใช่เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micropile และไอไมโครไพล์ I-Micropile เสาเข็มเป็นที่นิยมในการต่อเติม

ต่อเติมโรงงาน ต้องเลือกใช้เสาเข็มที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับฐานรากของโรงงาน และโครงสร้างเดิม ให้มั่นคงแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการทรุดตัวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เราขอแนะนำเสาเข็มสปันไมโครไพล์ ภูมิสยาม เสาเข็มคุณภาพได้มาตรฐาน รับประกันความปลอดภัยจากการใช้งาน มั่นใจในคุณภาพการรับน้ำหนัก สามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ตามที่วิศวกรออกแบบไว้

ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test และเสาเข็มยังมีข้อดีในเรื่องของ แรงสั่นสะเทือนขณะตอกมีน้อย ถึงแม้ว่าการตอกเสาเข็มจะใช้ความยาวมาก ก็สามารถลดแรงดันของดินในขณะตอกได้ โดยดินจะขึ้นทางรูกลวงของเสาเข็ม ซึ่งช่วยลดความกระทบกระเทือนที่มีต่อโครงสร้างใกล้เคียงได้มาก

เสาเข็มของภูมิสยามได้รับ มาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 หากต้องการเสาเข็ม ปรึกษาภูมิสยาม ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เสาเข็มสปันไมโครไพล์ และเสาเข็มไอไมโครไพล์ เสาเข็มเพื่อการต่อเติม เสริมฐานราก และงานสร้างใหม่ เราพร้อมบริการทั่วประเทศ

Miss Spunpile 

Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

ต่อเติมอาคารภายในโรงงาน ด้วยเสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micropile ได้ทั้งคุณภาพ มาตรฐาน และการรับประกัน

ต่อเติมอาคารภายในโรงงาน ด้วยเสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micropile ได้ทั้งคุณภาพ มาตรฐาน และการรับประกัน

เสาเข็มสปันไมโครไพล์ ภูมิสยาม เสาเข็มคุณภาพมาตรฐาน มอก. เหมาะกับงานต่อเติม ที่ต้องการการรับน้ำหนักและคุณภาพสูง ทางภูมิสยาม มีการให้คำปรึกษาโดยวิศวกรมืออาชีพ พร้อมทีมงานตอกมากประสบการณ์ ทำงานภายใต้ระบบ Safety เสาเข็มสปันไมโครไพล์สามารถเพิ่มต่อความยาวได้ โดยการนำเสาเข็มแต่ละท่อนมาเชื่อมต่อกันด้วยการเชื่อมแบบไฟฟ้า และตอกต่อกันด้วยปั้นจั่นขนาเล็ก จนลึกถึงชั้นดินทรายแข็ง หรือได้ความลึกตาม BLOW COUNT ที่กำหนดโดยวิศกร

เพื่อให้มั่นใจว่าเสาเข็มทุกต้นจะสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ รับประกันความเสียหายจากการใช้งาน

เสาเข็มของภูมิสยามได้รับ มาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549

ต่อเติมอาคาร โรงงาน เลือกใช้เสาเข็มสปันไมโครไพล์ ภูมิสยาม สำรวจหน้างานฟรี พร้อมยินดีให้คำปรึกษาที่เหมาะสมกับหน้างาน

Miss Spunpile 

Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

#ไมโครไพล์ #เสาเข็มไมโครไพล์ #Micropile

ฝากคำถามแล้วเราจะมาตอบให้ สมการในการตรวจสอบตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มโครงสร้างเสาเข็ม

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

ในทุกๆ วันศุกร์ (แห่งชาติ) แบบนี้ ผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะได้มาพูดคุยและเสวนากันถึงหัวข้อ “ฝากคำถาม-เราจะมาตอบให้” นะครับ

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาซึ่งผมได้ทำการอธิบายถึงเรื่อง การแก้ไขโครงสร้างฐานรากที่ใช้เสาเข็มโดยการเพิ่มจำนวนของโครงสร้างเสาเข็มเข้าไป ซึ่งผมได้อธิบายไว้ว่า หลักการที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มคือ ให้ทำการเพิ่มจำนวนของเสาเข็มให้อยู่ตรงกันกับตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของโครงสร้างฐานราก หรือ หากทำเช่นนั้นไม่ได้ก็ให้ทำการตรวจสอบว่าตำแหน่งในการโครงสร้างเสาเข็มนั้นทำให้จุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มโครงสร้างเสาเข็มให้ตรงกันกับตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของโครงสร้างฐานรากน่ะครับ


ซึ่งในวันนั้นผมเองก็ได้ให้คำแนะนำกับเพื่อนๆ ไว้ด้วยว่า สมการในการตรวจสอบตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มโครงสร้างเสาเข็มนั้นก็คือสมการ
Yb = ∑Ai×yi / ∑Ai

ซึ่งสมการข้างต้นเป็นสมการพื้นฐานที่เพื่อนๆ แฟนเพจที่เป็นวิศวกรน่าที่จะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเพราะเราต้องใช้สมการๆ นี้ในการคำนวณหลายๆ เรื่องเลย เช่น ในการคำนวณทางด้านกลศาสตร์ของโครงสร้าง หรือ STRUCTURAL MECHANICS หรือ ในการคำนวณทางด้านงานออกแบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือ RC STRUCTURAL DESIGN เป็นต้น แต่ทั้งนี้เพื่อเป็นการทบทวนความจำแก่เพื่อนๆ วันนี้ผมจึงจะขออนุญาตมาทวนและยกตัวอย่างถึงวิธีการใช้งานสมการๆ นี้ให้ก็แล้วกันนะครับ
ค่า Yb ก็คือ ตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของโครงสร้างที่เรากำลังพิจารณา โดยที่ค่าๆ นี้จะอยู่ในทางทิศทางใด ก็จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เราใช้ในการอ้างอิงเป็นหลัก ค่า Ai ก็คือ ขนาดของพื้นที่หน้าตัดของชิ้นส่วนโครงสร้างที่เรากำลังพิจารณา และ ค่า yi ก็คือ ตำแหน่งของชิ้นส่วนโครงสร้างที่เรากำลังพิจารณา โดยที่ค่าๆ นี้จะอยู่ในทางทิศทางใด ก็จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เราใช้ในการอ้างอิงเป็นหลัก ซึ่งผมต้องขอเน้นไว้ตรงนี้เลยว่า จากสมการๆ นี้จะสามารถใช้ได้สำหรับกรณีที่ชิ้นส่วนโครงสร้างนั้นมีความแข็งแรงของวัสดุที่เท่าๆ กันเท่านั้น เอาละเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เรามาดูตัวอย่างง่ายๆ ประกอบคำอธิบายของผมเลยก็แล้วกันนะครับ

ผมทำตัวอย่างขึ้นมา 2 ตัวอย่าง โดยที่เป็นตัวอย่างของการจัดเหล็กเสริมในหน้าตัดโครงสร้างคาน คสล รับแรงดัด โดยที่ในกรณีที่ 1 จะเป็นการวางเหล็กเสริมแบบสมมาตร ซึ่งพอผลจากการคำนวณออกมาเพื่อนๆ ก็จะเห็นได้ว่าตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มเหล็กเสริมนั้นจะอยู่ที่ตรงกึ่งกลางแบบพอดิบพอดีเลย สำหรับกรณีที่ 2 จะเป็นการวางเหล็กเสริมแบบไม่สมมาตร ซึ่งพอผลจากการคำนวณออกมาเพื่อนๆ ก็จะเห็นได้ว่าตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มเหล็กเสริมนั้นจะไม่ได้อยู่ที่ตรงกึ่งกลางเหมือนในกรณีที่ 1 แล้วน่ะครับ

เรามาเริ่มต้นจากกรณีที่ 1 ก่อนก็แล้วกัน ซึ่งผมจะทำการคำนวณหาค่า Ai ก่อน ซึ่งสำหรับกรณีนี้จะมีค่า Ai ทั้งหมด 2 ค่า นั่นก็คือ A1 สำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 2.01 ตร.ซม และ A2 สำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 มม ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 4.91 ตร.ซม นะครับ

ค่าต่อมาก็คือ yi บ้าง ซึ่งสำหรับกรณีนี้จะมีค่า yi ทั้งหมด 4 ค่านั่นก็คือ สำหรับเหล็กในแถวบน 2 ค่า และเหล็กในแถวล่างอีก 2 ค่า ผมจะเริ่มจากเหล็กแถวล่างก่อนนะ นั่นก็คือ สำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 8 มม และสำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 มม ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 12.5 มม ต่อมาก็คือ เหล็กแถวบน นั่นก็คือ สำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 72 มม และสำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 มม ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 67.5 มม ดังนั้นหากเราทำการแทนค่าต่างๆ ที่หาเอาไว้ข้างต้นเราก็จะสามารถทำการคำนวณหาค่า Yb สำหรับกรณีที่ 1 ออกมาได้มีค่าเท่ากับ
Yb = [ ( 2×2.01×8 + 2×4.91×12.5 ) + ( 2×2.01×72 + 2×4.91×67.5 ) ] / ( 4×2.01 + 4×4.91 )
Yb = 1107.2 / 27.68
Yb = 40 มม

เรามาต่อกันที่กรณีที่ 2 เลยนะ สำหรับกรณีนี้จะมีค่า Ai ทั้งหมด 2 ค่า เหมือนเดิม และจะมีความแตกต่างออกไปจากกรณีที่ 1 ตรงที่ค่า yi ซึ่งจะไม่มีค่า yi สำหรับเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม ดังนั้นหากเราทำการแทนค่าต่างๆ ที่หาเอาไว้ข้างต้นเราก็จะสามารถทำการคำนวณหาค่า Yb สำหรับกรณีที่ 2 ออกมาได้มีค่าเท่ากับ
Yb = [ ( 2×2.01×8 + 2×4.91×12.5 ) + ( 2×4.91×67.5 ) ] / ( 2×2.01 + 4×4.91 )
Yb = 817.76 / 23.66
Yb = 34.56 มม

 

ซึ่งเพื่อนๆ จะเห็นได้ว่า ผลจากการคำนวณจากกรณที่ 1 จะพบว่าตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มเหล็กเสริมนั้นจะอยู่ที่ตรงกึ่งกลางแบบพอดิบพอดีเลยและสำหรับกรณีที่ 2 ที่ตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของกลุ่มเหล็กเสริมนั้นจะอยู่ค่อนลงมาต่ำกว่าตำแหน่งกึ่งกลางเล็กน้อยนั้นก็เป็นเพราะว่า ที่เหล็กเสริมแถวบนนั้นจะขาดหายไปซึ่งเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม ซึ่งจะส่งผลทำให้ตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงของชิ้นส่วนโครงสร้างนั้นลดต่ำลงมาเล็กน้อยนั่นเองครับ

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านจากคำถามในวันนี้น่าที่จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ
#โพสต์วันศุกร์
#ฝากคำถามแล้วเราจะมาตอบให้
#เทคนิคในการคำนวณหาระยะจุดศูนย์ถ่วงของชิ้นส่วนโครงสร้างที่มีความแข็งแรงเทียบเท่ากัน
ADMIN JAMES DEAN


Bhumisiam (ภูมิสยาม)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service)

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile และเสาเข็มไอไมโครไพล์ I Micropile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

เสาเข็มไอ ไมโครไพล์ (I Micropile)
1) I-18 รับนน. 15-20 ตัน/ต้น
2) I-22 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
3) I-26 รับนน. 30-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มสี่เหลี่ยม สปันไมโครไพล์ (Square Spun Micro Pile)
4) S18 รับนน. 18-22 ตัน/ต้น
5) S23 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
เสาเข็มกลม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)
6) Dia.21 รับนน. 20-25 ตัน/ต้น
7) Dia.25 รับนน. 25-35 ตัน/ต้น
8) Dia.30 รับนน. 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)


สอบถามเพิ่มเติมได้ 24ชม. ทุกวันค่ะ
☎️ 082-790-1447
☎️ 082-790-1448
☎️ 082-790-1449
☎️ 091-9478-945
☎️ 091-8954-269
☎️ 091-8989-561
📲 https://lin.ee/hum1ua2
📥 https://m.me/bhumisiam

1 11 12 13 14 15 16